รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่ภูเก็ต

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่ภูเก็ต ประชุมหารือแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ เชื้อไวรัสโควิด-19

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 เวลา 14.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเรวัติ อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้องจากกระทรวงสาธารณสุข ร่วมประชุมรับฟังปัญหาด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการตัวแทนภาครัฐเอกชนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ เชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต

ในช่วงแรกได้เปิดให้ภาคเอกชนเสนอแนวคิดผลกระทบที่ได้รับจากการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด -19 โดยนายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นำเสนอแนวทางของภาคเอกชนที่มีความต้องการให้ภาครัฐผ่อนปรนยกเลิกการปิดรอยต่อระหว่างตำบล ยกเว้นบางพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด เพราะหากปิดพื้นที่รอยต่อระหว่างตำบลเป็นระยะเวลานานทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ คนว่างงาน ไม่มีรายได้ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนต้องการออกไปทำงานและเดินทางติดต่อกันระหว่างตำบล ทั้งนี้หากมีการดำเนินการเปิดตำบลจะเป็นการทำงานเชิงจิตวิทยาที่ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น และจากปัจจัยรายได้ของจังหวัดภูเก็ตมาจากการท่องเที่ยวเป็นหลักและมีการเชื่อมโยงเป็นลูกโซ่กับธุรกิจต่อเนื่อง

ทั้งนี้คาดว่ายังไม่มีนักท่องเที่ยวที่มีความมั่นใจจะเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตในระยะช่วง 6 เดือนจากนี้ไป จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคเอกชนและประชาชนจะต้องสร้างงานในเรื่องของการซ่อมสร้างธุรกิจการก่อสร้างเตรียมความพร้อมของบ้านเมือง เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้เลี้ยงตนเองจากการประกอบอาชีพด้านการซ่อมสร้างหรืองานก่อสร้างแทน

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคม โรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวว่า ในส่วนของสถานประกอบการโรงแรมที่ต้องการนำเสนอคือการกำหนดมาตรการในการเปิดสถานประกอบการโรงแรมเพื่อทำตลาดภายในประเทศซึ่งจะต้องมีการวางแผนการเปิดตลาดอย่างเป็นระบบ พร้อมเสนอให้ภาครัฐ พัฒนาระบบ Big Data มีข้อมูลพื้นฐานของจังหวัดภูเก็ต อาทิ ข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวข้อมูลสถานประกอบการเพื่อให้นักลงทุนนำข้อมูลไปวางแผนในการพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป

นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด ภูเก็ต นำเสนอเรียกร้องให้รัฐบาลปลดล็อคการปิดรอยต่อระหว่างตำบลและเห็นด้วยกับโมเดลแนวคิดการปลดล็อคของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ที่มีมาตรการค่อยๆ เปิดจังหวัดภูเก็ต เพื่อเน้นการสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งนี้การเปิดให้นักท่องเที่ยวกลับมาต้องมีการคัดกรองสแกน อย่างเข้มข้น พร้อมทั้งในช่วงนี้อยากให้จังหวัดได้วางแผนเตรียมการโดยดำเนินการ ซ่อมจังหวัดภูเก็ตทั้งในเรื่องของปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ ให้มีความพร้อมเพื่อรองรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลงพื้นที่ภูเก็ตครั้งนี้ เพื่อติดตามการทำงานและวางแผนเพื่อเร่งฟื้นฟูเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid -19 จำเป็นต้องใช้มาตรการที่เข้มข้น ทั้งการประกาศเป็นพระราชบัญญัติโรคติดต่อร้ายแรงการประกาศ พระราชบัญญัติสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การที่ประเทศไทยจะเปิดให้มีการเดินทางได้อย่างเสรี จะเป็นปัจจัยที่ทำให้การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แพร่กระจายและผู้คนติดเชื้อได้ง่าย อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งทำให้ประเทศไทยมีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดีกว่าประเทศอื่น ๆ

การควบคุมโรคเป็นปัจจัยที่สำคัญเพื่อต้องการรักษาชีวิตของพี่น้องประชาชนดังนั้นหลังจากนี้รัฐบาลเตรียมกำหนดนโยบายที่จะผ่อนปรน และปลดล็อคในแต่ละพื้นที่เพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความผ่อนคลาย ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนยังคงสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย รักษาระยะห่างทางสังคม จะช่วยป้องกันไวรัส โควิด -19 ได้ดีที่สุด
สำหรับในส่วนของสถานประกอบการสนามมวยไก่ชนยังเปิดไม่ได้แต่ในส่วนของร้านตัดผมร้านอาหารอาจจะมีมาตรการที่ผ่อนปรน แต่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันดูแลควบคุมการติดเชื้อต่อไป

รัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศ เป้าหมายที่รัฐบาลจะดำเนินการคือเมื่อมีการปลดล็อคแล้วยังคงมีการจัดระเบียบวินัยให้ประเทศอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ดีน้ำทะเลใสสวย อากาศสะอาด โดยสถานการณ์ของไวรัสCOVID- 19 จะมีความปลอดภัยเต็มร้อย ต่อเมื่อมีการประกาศว่ามีวัคซีนในการรักษาโรคนี้ได้

โอกาสนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข,นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต,ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตดำเนินการหารือหาคำนิยามของคำว่าผ่อนคลายและการปลดล็อคพื้นที่ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนอย่างสูงสุดโดยจะต้องเป็นการดำเนินงานตามกรอบที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กำหนด สำหรับในส่วนของคณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดเป็นการดำเนินการโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานโดยใช้อํานาจผ่านมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของรัฐบาลกำลังวางแผนกำหนดมาตรการในการผ่อนปรน ปลดล็อคในมาตรการต่างๆโดยเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการปลดล็อคในพื้นที่ให้มีการติดต่อค้าขายในจังหวัดก่อนจากนั้นจึงค่อยขยายไประหว่างจังหวัด ตอนนี้คาดว่าจะมีการผ่อนปรนไปเรื่อยๆ โดยพิจารณาในจังหวัดที่มีความเสี่ยงและสถิติผู้ติดเชื้อที่มีความปลอดภัย เช่น ไม่พบผู้ป่วยในระยะเวลา 3 สัปดาห์อาจจะมีการผ่อนปรนให้เกิดการปลดล็อคในจังหวัดนั้นๆ โดยขณะนี้พบว่ามีจังหวัดที่ไม่พบการติดเชื้อในระยะเวลา 2 สัปดาห์ประมาณ 30 จังหวัด

จากนั้นรัฐบาลจะส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศแต่จะต้องมีความมั่นใจถึงความสะอาดความสะดวก และความปลอดภัยของจังหวัดที่จะเปิดการท่องเที่ยว ดังนั้นขอความร่วมมือภาคเอกชนในการเตรียมความพร้อมรองรับในมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวดังกล่าว
โดยที่ผ่านมาประชาชนเรียกร้องขอให้รัฐบาลเปิดเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงซึ่งขอยืนยันว่ารัฐบาลได้เผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงแต่ก็แปลกที่คนส่วนใหญ่เชื่อถือข่าวลวงมากกว่าข่าวจริง

ทั้งนี้ อยากให้จังหวัดภูเก็ตเป็นโมเดลในการเป็นจังหวัดคุณภาพของการจัดการท่องเที่ยวเช่น นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ตจะต้องมีใบรับรองแพทย์อัพเดท 72 ชั่วโมงและใบรับรองแพทย์ดังกล่าวจะต้องสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับกับโรงพยาบาลที่ออกใบรับรองแพทย์ได้ โดยกระบวนการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับสถานทูตจะเป็นผู้ประสานงานตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวและขอยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญ ในการวางแผนเยียวยาฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตเพราะ จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งรายได้ ถึง 25% ของรายได้ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาและนำเงินมาใช้จ่ายในประเทศไทย

Comments are closed.